Category: ข่าวกีฬา

“คัดมาให้แล้ว” สรุปดีลย้ายทีมเด่นๆของ 7 สโมสรใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในตลาดนักเตะ เดือนมกราคม ปี 2023 ทั้งขาเข้า-ขาออก

หลังปิดตลาดค้าขายนักฟุตบอลวันสุดท้าย ของตลาดหน้าหนาว พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดู 2022-23 โดยซีซั่นนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกตีสถิติ ซื้อนักฟุตบอลรวมกัน2 รอบตลาด เป็นราคาเป็นอย่างมากถึง 2.8 พันล้านปอนด์

บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานตัวเลขหลังปิดตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนนักเตะวันสุดท้ายของตลาดหน้าหนาว พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดู 2022-23 โดยซีซั่นนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกทำลายสถิติ ซื้อนักเตะรวมกัน 2 รอบตลาด เป็นค่าพรั่งพร้อมถึง 2.8 พันล้านปอนด์

รายงานระบุเพิ่มเติมว่า เฉพาะยอดจ่ายตลาดทีมในลีกสูงสุดในเดือน ม.ค. ทำสถิติเป็นเงิน 815 ล้านปอนด์ ในขณะที่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็บันทึกสถิติไว้ที่กว่า 1.9 พันกว่าล้านปอนด์ ผลรวมทั้งหมด 2.8 พันล้านปอนด์ มากมายเป็น 2 เท่าของสถิติเดิม 1.4 พันล้านปอนด์ เมื่อปี 2017

วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เราสรุปการย้ายทีมที่สำคัญของ 7 ทีมใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ในตลาดนักเตะฤดูหนาวปี 2023 ที่เพิ่งจะปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 เดือนมกราคมที่ผ่านมา ดังนี้

อาร์เซนอล

• ย้ายเข้า

เลอันโดร ทรอสซาร์ (ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน) , ยาคุบ คิวิออร์ (สเปเซีย) , จอร์จินโญ (เชลซี)

• ย้ายออก

มาร์ควินญอส (นอริช) *ยืมตัว , อัลแบร์ ซัมบี โลกงกา (คริสตัล พาเลซ) *ยืมตัว , เซดริก โซอาเรส (ฟูแลม) *ยืมตัว

เชลซี

• ย้ายเข้า

ดาวิด ดาโทร โฟฟานา (โมลด์) , เบอนัวต์ บาดียาชีล (โมนาโก) ,อังเดร ซานโตส (วาสโก ดา กามา) , ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด) *ยืมตัว , มิไคโล มูดริค (ชัคห์ตาร์ โดเนตสค์) , โนนี มาดูเอเก (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน) , มาโล กุสโต (โอลิมปิก ลียง) , เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ (เบนฟิกา)

• ย้ายออก

จอร์จินโญ (อาร์เซนอล) , บาเชียร์ ฮัมฟรีย์ส (พาเดอร์บอร์น) *ยืมตัว , มาโล กุสโต (โอลิมปิก ลียง) *ปล่อยยืมตัวตามเงื่อนไข หลังเซ็นสัญญาถาวร , เชซาเร คาซาเดอี (เรดดิง) *ยืมตัว , จูด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ (สเปอร์ส)

ลิเวอร์พูล

• ย้ายเข้า

โคดี กัคโป (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน)

• ย้ายออก

เจค เคน (สวินดอน ทาวน์) , ลุค แชมเบอร์ส (คิลมาร์น็อค) *ยืมตัว , จาเรลล์ ควอนซาห์ (บริสตอล โรเวอร์ส) *ยืมตัว

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

• ย้ายเข้า

แจ็ค บัตแลนด์ (คริสตัล พาเลซ) *ยืมตัว , เวาท์ เวกฮอร์สต์ (เบิร์นลีย์) *ยืมตัว , มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (บาเยิร์น มิวนิก) *ยืมตัว

• ย้ายออก

โชลา ชอเรทีเร (โบลตัน) *ยืมตัว , ชาร์ลี ซาเวจ (ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส) *ยืมตัว , ชาร์ลี แม็คนีลล์ (นิวพอร์ต เคาน์ตี) *ยืมตัว , อักเซล ตวนเซเบ (สโต๊ค ซิตี้) *ยืมตัว , ออนเดร มาสต์นี (พอร์ทตาดาวน์) *ยืมตัว , ดิชอน เบอร์นาร์ด (พอร์ตสมัธ) *ยืมตัว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

• ย้ายเข้า

มักซิโม เปร์โรเน (เบเลซ ซาร์สฟิลด์)

• ย้ายออก

ชูเอา คันเซโล (บาเยิร์น มิวนิก) *ยืมตัว พ่วงออปชันซื้อขาด , เลียม ดีแล็ป (เปรสตัน) *ยืมตัว , เกย์กี (บาเญีย) *ยืมตัว , จอช วิลสัน-เอสบรานด์ (โคเวนทรี ซิตี้) *ยืมตัว , ลุค เอ็มเบเต (โบลตัน) *ยืมตัว

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

• ย้ายเข้า

กาแรง คูล (เซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส) , แอนโธนี กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน) , แฮร์ริสัน แอชบี (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

• ย้ายออก

กาแรง คูล (ฮาร์ทส์) *ยืมตัว , คริส วูด (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์) *ยืมตัว , จอนโจ เชลวีย์ (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์) , คาร์ล ดาร์โลว์ (ฮัลล์ ซิตี้) *ยืมตัว

สเปอร์ส

• ย้ายเข้า

อาร์เนาท์ ดันจูมา (บียาร์เรอัล) *ยืมตัว , จูด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ (เชลซี) , เปโดร ปอร์โร (สปอร์ติง ลิสบอน) *ยืมตัว พ่วงออปชันซื้อขาด

• ย้ายออก

ไบรยัน คิล (เซบีญา) *ยืมตัว , ดีเจด สเปนซ์ (แรนส์) *ยืมตัว , ฮาร์วีย์ ไวท์ (ดาร์บี เคาน์ตี) *ยืมตัว , แมตต์ โดเฮอร์ตี (แอตเลติโก มาดริด) , อดัม เฮย์ตัน (บาร์นสลีย์)

สรุปตลาดหน้าหนาวพรีเมียร์ ลีก อังกฤษฤดูกาล 2022/23

สรุปตลาดค้าขายนักเตะหน้าหนาวฤดูกาล 2022/23 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ แมนยูฯ อาร์เซน่อล คว้านักเตะเฉียดเส้นตาย ด้านเชลซีตีสถิติพรีเมียร์ลีกคว้าเอ็นโซ่

ตลาดค้าขายนักเตะตอนหน้าหนาวของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดลงวันนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลาดค้าขายคราวนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกต่างเสริมแกร่ง เพื่อจัดเตรียมรับศึกในช่วงครึ่งท้ายของฤดู เป็นต้นว่าการที่

เชลซี กระชากตัว มิไคโล มูดริค ด้วยค่าตอบแทนกว่า 100 ล้านยูโร หลังมีข่าวร่วมเดือนกับ

อาร์เซน่อล อริร่วมกรุงลอนดอน หรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยืมมาร์เซล ซาบิตเซอร์ กองกลางตัวเก่งทีมชาติออสเตรีย ในช่วง 24 ชั่วโมงสุดท้าย

จะมองเห็นได้ว่าทีมใหญ่ชอบเป็นการเสริมทัพเพื่อเติมเต็มส่วนที่ทีมขาดและปล่อยยืมนักฟุตบอลดาวรุ่งให้ออกไปพบประสบการณ์ ในขณะที่ทีมเล็กจะมีทั้งการปล่อยยืมนักฟุตบอลดาวรุ่งและการเสริมแกร่งเพื่อให้ฟาดแข้งกับทีมใหญ่ได้มีคุณภาพยิ่งขึ้น

โดยทีมที่มีข่าวในช่วงโค้งสุดท้ายหนีไม่พ้นดีล จอร์จินโญ่ ย้ายจากเชลซี ซบอาร์เซน่อล ทีมเต็งแชมป์ ด้วยค่าจ้างรวม 12 ล้านปอนด์ และการยืมตัวมาร์เซล ซาบิตเซอร์ จากบาเยิร์น มิวนิค สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแบบเซอร์ไพรส์ ในขณะที่ลิเวอร์พูลซื้อแค่ โคดี้ กักโป ปีกตัวจี๊ดจากพีเอสวีรายเดียวเพียงแค่นั้น

ส่วนเชลซีทุบสถิติพรีเมียร์ลีก ด้วยการทุ่มหมดตัว กว่า 121 ล้านยูโร กระชากตัว เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดส กองกลางดีกรีทีมชาติ อาร์เจนติน่า มาจากเบนฟิก้า หลังมีข่าวการพูดจาร่วมเดือน

ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อแค่ดาวรุ่งอย่าง แม็กซิโม่ เปอร์โรนี จาก เบเลซ ซาร์สฟิลด์ เพียงแค่รายเดียวแค่นั้น เนื่องจากว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้คิดว่าทีมลงตัวแล้ว

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทำได้เพียง เปิดบ้านเสมอ เรอัล โซเซียดัด ในศึกลา ลีกา สเปน ตามหลัง จ่าฝูง บาร์เซโลนา 5 คะแนน

การแข่งขันฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ฤดู 2022-23 เมื่อคืน วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 66 คู่ที่น่าดึงดูด “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด อันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดัด

ประเดิมครึ่งแรก นาทีที่ 17 เรอัลมาดริด ได้ลุ้นจากลูกยิงของ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่บอลพุ่ง หลุดเสาออกไป

แล้วนาทีที่ 32 เรอัลมาดริด ได้ลุ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็น โทนี โครส ที่ได้ซัด แต่นายด่านโซเซียดัดปัดออกไปได้เฉียดฉิว และถัดมา 3 นาที คาริม เบนเซมา ก็ยิงไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร

เข้าสู่ช่วทดเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 ราชันชุดขาว น่าขึ้นนำ เมื่อ คาริม เบนเซมา จ่ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ พาบอลไปยิงในเขตโทษ แต่ก็ยังติดเซฟของ เรมิโร ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง เรอัลมาดริด พยายามหาจังหวะทำแต้ม แต่ยิงไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร หรือยิงออกกันไปเอง จนถึงจบ 90 นาที เรอัลมาดริด ทำได้เพียงแค่เสมอ เรอัล โซเซียดัด 0-0 มี 42 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลนา 5 คะแนน

เรอัล มาดริด เจาะไม่เข้า เจ๊าจืด โซเซียดาด 0-0 ตาม บาร์ซ่า 5 แต้มศึกลาลีกา

“ราชันชุดขาว” เรอัลมาดริด เปิดบ้านเจ๊า เรอัล โซเซียดาด 0-0 ตามหลัง บาร์เซโลน่าอยู่ 5 แต้ม

ศึกฟุตบอล ลาลีกา สเปน ที่ สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อคืนนี้ วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ระหว่าง ราชันชุดขาว เรอัลมาดริด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดาด

ผลปรากฎว่า ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0

การทำศึกคราวนี้มีผลทำให้ ราชันชุดขาว เรอัลมาดริด มี 42 คะแนน รองจ่าฝูง ด้าน เรอัล โซเซียดาด มี 39 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของตาราง

“มาดริด”เท้าบอด! ถูก”โซเซียดาด”บุกมาแบ่งแต้ม

ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ประเทศสเปน ในการแข่งขันฟุตบอล ลาลีก้า ฤดูกาล 2022-2023 คืนวันที่ 29 ม.ค.66 ระหว่างทีม “เรอัลมาดริด” เจอกับทีม “เรอัล โซเซียดาด” เริ่มเกมการแข่งขัน นาทีที่ 14 มาดริด เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะที่วินิซิอุสได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาจับแล้วแตะลอดขา ซูเบลเดีย กระชากเข้าไปในกรอบ ก่อนได้เหลี่ยมแปด้วยขวา เรียดหลุดเสาสอง ไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 17 โซเซียดาดก็เกือบจะได้ประตูเช่นเดียวกัน จังหวะทีฝั่งมาดริดสกัดบอลไม่ขาด แล้วมาเข้าทาง อิญาร์ราเมนดี้ ได้วางเท้ายิงด้วยซ้าย ทางกรอบจุดโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งเรียดแรงถาก หลุดเสาสองไปนิดเดียว

เริ่มเกมครึ่งหลัง นาทีที่ 61 โซเซียดาด มีโอกาสอีกรอบ จากจังหวะ คุโบะ ได้บอลทำชิ่งหลุด เข้าไปในกรอบฝั่งขวา ก่อนที่เขาจะเอียงตัวแปด้วยซ้าย ไปติดเซฟคูร์กตัวส์ นาทีที่ 71 ราชันชุดขาวได้โอกาสทอง

จังหวะต่อบอลกันมาสวยก่อนที่ เซบาญอส จะสะกิดให้ วินิซิอุส กระชากหลุดเข้าไปในกรอบจุดโทษฝั่งซ้าย เขาบรรจงชิพด้วยขวา แต่ยังไปติด เรมิโร่ ที่ยกมือปัดเอาไว้ได้หวุดหวิด จบเกมเสมอกันไป 0-0 โดยมาดรีด ยังรั้งรองจ่าฝูง มีแต้มตามหลัง บาร์เซโลน่า เป็น 5 คะแนน หลังจากแข่งไป 18 นัดเท่ากัน

ศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” เตรียมเปิดฤดูใหม่ 2023 ก่อนหน้านั้นจะมี Official Test กันก่อน 2 สนาม ที่เซปัง อินเตอร์เนเชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย 10-12 ก.พ. แล้วไปที่ออโตโดรโม ประเทศโปรตุเกส 11-13 มี.ค. และ 17-20 มี.ค. (รุ่นโมโต 2-โมโต 3) ต่อจากนั้นจะเริ่มแข่งสนามแรกของฤดูที่สนามเดียวกันนี้ในวันที่ 24-27 มี.ค.

ความรู้จากเพจ Yamaha Thailand Racing Team ในทุกๆรายการแข่งขัน จะแบ่งรอบการขี่ลงสนามออกเป็น 4 รอบเป็น รอบการฝึกซ้อม (Free Practice) รอบการควอลิฟาย หรือ (Qualifying) รอบการวอร์มอัป (Warm up) และ รอบการแข่งขันจริง (Race) ซึ่งจะเป็นตัววินิจฉัยผลงานของนักแข่งขันและทีมในสนามนั้นๆ

แล้วทีนี้ การขี่ลงสนามในรอบ Free practice และ Qualifying นั้นมีส่วนสำคัญยังไง…รอบการฝึกซ้อม (Free Practice) จะเป็นช่วง ของการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ทั้งนักแข่ง และทีมงาน เพื่อที่จะหาข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่สภาพสนาม ตัวรถแข่ง การเซตติ้งรถ การทดลองอุปกรณ์ อื่นๆรวมถึงการลองสเปกยางต่างๆ เพื่อให้นักแข่ง และตัวรถพร้อมที่สุดสำหรับสนามนั้นๆ

รอบการควอลิฟาย (Qualifying) นับว่าเป็นตอนที่สำคัญก่อนการแข่งขัน เพราะสำหรับการควอลิฟายจะเป็นการจับเวลาเพื่อจัดตำแหน่งในกริดสตาร์ต ซึ่งนักแข่งทุกคนจะมุ่งเน้นการควอลิฟายเป็นอันมาก ด้วยเหตุว่าได้เรื่องออกสตาร์ตที่อยู่ด้านหน้า ก็จะเป็นต่อในเรื่องของการเลือกไลน์ ซึ่งต่างจากการออกสตาร์ตจากข้างหลัง ที่เสียเปรียบจากการเลือกไลน์แล้ว ยังต้องหาไลน์สำหรับเพื่อการแซงคันหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ระยะห่างของแต่ละกริด ก็ยังสร้างความได้เปรียบและเสียเปรียบด้วยเหมือนกัน

รอบการวอร์มอัป (Warm up) รอบๆการวอร์มอัป จะถือได้ว่าเป็นการทดสอบรถ และการคอนเฟิร์มสเปกการเซตติ้งต่างๆ ครั้งสุดท้าย จากนักแข่งให้กับทีมงานก่อนรอบการแข่งขันจริง

การแข่งขัน (Race) จะเป็นการตัดสินต่อสิ่งที่ดำเนินการมาตลอด ตั้งแต่ตอนฝึก ซึ่งนักแข่งทุกคนควรจะมีสมาธิ และการตัดสินใจ เพื่อที่จะทำผลงานที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและทีม

Ducati เปิดตัวทีมแข่ง “โมโตจีพี” ลุยฤดู 2023 “บัญญาญ่า” ใช้เลขรถเบอร์ “ 1 “

เปิดตัวออกมาเรียบร้อยแล้วสำหรับดูคาติ พร้อมลุยศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2023 พร้อมทั้งนักแข่งขันประจำทีมอย่าง “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” เปลี่ยนแปลงมาใช้รถหมายเลข 1 และ “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่ได้โอกาสขึ้นมาขี่ให้กับทีมโรงงาน

ดูคาติ เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ยามาฮ่า และ เกรซซินี ที่ได้เปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพี เผยโฉมรถแข่ง และนักแข่งของทีมสำหรับลุยศึกการแข่งขัน รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ฤดู 2023 โดยนักแข่งขันประจำทีมคือ “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” แชมป์โลกโมโตจีพี คนปัจจุบัน ซี่งในปีนี้จะใช้หมายเลขรถแข่งหมาย 1 เป็นหมายเลขที่แชมป์โลกคนปัจจุบันนี้เพียงแค่นั้นที่สามารถใช้ได้ และอีกคนก็คือ ดาวรุ่งมาแรงอย่าง “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่ย้ายมาจากทีมอิสระ เกรซซินี เรซซิ่ง

สำหรับตัวรถแข่งยังคงใช้ลายกราฟิกแบบเดิมที่เป็นสีแดง รูปลักษณ์มีความเปลี่ยนแปลงอยู่พอสมควรจากปีที่แล้ว โดยจากเดิมแฟริ่งรอบคันนั้นใหญ่ขึ้นดูถึก และบึกบึน มาปีนี้เสมือนทำให้มองซูบผอมลง ซึ่งเป็นรถ ที่ได้รับการพัฒนามาจากปีที่แล้ว พร้อมทดลองในกุมภาพันธ์นี้ ที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย

ผลงานฤดูกาลที่แล้วของทีมดูคาติ สามารถได้แชมป์ประเภททีม ประเภทผู้ผลิต รวมทั้งประเภทนักแข่ง เรียกได้ว่ากวาดเรียบ สำหรับปีนี้จะเป็นการป้องกันแชมป์ของดูคาติ ที่ดูอย่างกับว่านักแข่งแต่ละคน ที่ใช้รถของดูคาติความสามารถระดับพระกาฬทั้งนั้น โดยยิ่งไปกว่านั้นทีมโรงงานที่ได้ “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่โชว์ผลงานได้อย่างตรึงใจด้วยการคว้าแชมป์ทั้งหมด 4 ครั้ง 6 โพเดี้ยม จบอันดับที่ 3 ในคะแนนสะสมประจำปี

ส่วนเรื่องหมายเลข 1 ของ “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” นักแข่งของ ดูคาติ คนที่ 2 ที่มาใช้หมายเลขดังกล่าว ที่ผ่านมามี “เคซี่ สโตนเนอร์” ที่ใช้ในปี 2008 นักแข่งขันรุ่นพี่ที่เคยหมายเลขนี้มาแล้วตอนที่ครอบครองแชมป์โลกตอนอยู่ดูคาติเมื่อปี 2007

เปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพีMonster Energy Yamaha พร้อมนักแข่งประจำทีม

ยามาฮ่าเป็นทีมแข่งขันโมโตจีพี ทีมแรกที่ได้เปิดตัวรถ และนักแข่งประจำทีม สำหรับลุยศึก จักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกประจำฤดูกาล 2023

โดยงานเปิดตัวนี้ยามาฮ่าได้ใช้เวทีที่ประเทศอินโดนีเซียในการเปิดตัวทีมแข่งขัน โมโตจีพีอย่างเป็นทางการ นำโดยประธานฝ่ายเรซซิ่งอย่าง “ทาคาฮิโร่ ซูมิ” ตามมาด้วยผู้จัดการทีมอย่าง “ลิน จาร์วิส” และผู้อำนวยการทีมแข่งขัน “มัสซิโม่ เมอเรกัลลี” แล้วที่เลยก็คือนักแข่งประจำทีมอย่างแชมป์โลกปี 2021 “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” และเพื่อนร่วมทีม “ฟรานโก้ มอบิเดลลี”​

สำหรับตัวรถแข่งโมโตจีพี Yamaha M1 ปี 2023 ยังคงใช้ลายกราฟิกคล้ายเดิมปรับแต่งลวดลายใหม่น้อย ที่มาพร้อมกับพันธมิตรสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Monster Energy เหนือสิ่งอื่นใดทุกสายตาจ้องไปที่พลังของเครื่องยนต์กลไก M1 ตัวใหม่นี้จะมีความแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามที่ “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” ต้องการหรือเปล่า

ซึ่งยามาฮ่านั้นได้ดึงตัว “ลูก้า มาร์โมรินี” อดีตผู้ออกแบบเครื่องจักรกลรถแข่ง F1 ให้กับเฟอร์รารี่และโตโยต้า มาเพื่อช่วยดึงพละกำลังของ M1 ให้แรงมากยิ่งขึ้น จะต้องมาดูกันว่าการทดสอบช่วงวินเทอร์เทสก่อนเปิดฤดูที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย จะออกมายังไง

สำหรับเพื่อการเปิดตัวทีมแข่งขันโมโตจีพี ทีมต่อไปจะเป็นคิวของทีม Gresini Racing ในวันเสาร์ที่ 21 มกราคมนี้ มาคอยติดตามกันว่าสีสันของรถแข่งนั้นจะแปรไปไหม

หลังจากศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2022/23 ผ่านมาถึงกลางทาง อาร์เซน่อล ยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้โดยกวาดแต้มไปแล้ว 50 แต้มจากการลงสนาม 19 นัด

จากผลงานนัดล่าสุดที่เปิดบ้านปราบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ทีม ปืนใหญ่ ขยับหนี แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงเป็น 5 แต้ม และลงบู๊น้อยกว่า เรือใบสีฟ้า หนึ่งนัด

แน่นอนว่าหากแม้ทางของฤดูกาลจะยังเหลืออีกยาวไกล แต่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เช่นเดียวกันว่าสาวก เดอะ กันเนอร์ส ฝันถึงการคว้าชัยชนะ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกกันแล้วนับตั้งแต่พวกเขาได้โทรฟี่ใบนี้มาเชยชมหนสุดท้ายในซีซั่น 2003/04

กระนั้นก็ตาม มันมีสัญญาณบ่งบอกว่าอาร์เซน่อล จะบรรลุความสำเร็จในซีซั่นนี้ อย่างแน่แท้ด้วยเหตุผล 6 ข้อดังต่อไปนี้

1. แผงหลังอย่างหนา อาร์เซน่อล

กาลครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยตกวาทะว่า “เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับทำให้คุณได้แชมป์”

เท่าที่ผ่านมา อาร์เซน่อลมีจุดอ่อนในเรื่องเกมรับมาตั้งแต่ช่วงท้ายการคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ อีกทั้ง อูไน เอเมรี่ ก็จัดการกับปัญหาที่ตรงนี้ไม่เป็นผลสำเร็จ แต่ไม่ใช่ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งทำให้ทีมมีเกมรับที่แข็งโปก

ดังจะมีความคิดเห็นว่านาทีนี้ เดอะ กันเนอร์ส เสียประตูใน พรีเมียร์ลีก น้อยที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก นิวคาสเซิ่ล แค่นั้นโดยพวกเขาปล่อยให้คู่แข่งทำประตูได้เพียงแค่ 16 จาก 19 นัด

จากความยอดเยี่ยมดังกล่าว อาร่อน แรมสเดล นายทวารมือกาว เหมาะสมได้รับคำกล่าวชมเชยมากพอๆกับบรรดาแผงหลังด้วยเหตุว่าเขามีคลีนชีต 9 นัด เป็นรองแค่ นิค โป๊ป นายทวารทีม สาลิกาดง รายเดียวเพียงแค่นั้นที่เก็บคลีนชีตได้มากกว่า

นอกจากความเหนียวหนึบของ แรมสเดล แล้ว คู่กองหลังอย่าง วิลเลี่ยม ซาลิบา กับ กาเบรียล มากัลเญส ก็ติดต่อประสานงานกันได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ เบน ไวท์ กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สองฟูลแบ็คต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ

อีกทั้งจากสถิติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่งมักครอบครองแชมป์ไปครอบครองได้ในท้ายที่สุด ด้วยเหตุนี้แล้ว อาร์เซน่อลจึงมีคุณสมบัติข้อนี้อยู่ในแบบอย่างชัดเจน

2. ฟอร์มนัดเหย้า อาร์เซน่อล

นับตั้งแต่บอกลา ไฮบิวรี่ มาเล่นที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในปี 2006 อาร์เซน่อลแทบจะไม่ค่อยได้สังสรรค์ใหญ่กันสักเท่าไหร่เพราะเหตุว่ากันว่าบ้านหลังปัจจุบันของพวกเขามีบรรยากาศที่เทียบกับบ้านหลังเก่ามิได้

อย่างไรก็ดี หลังการเข้ารับตำแหน่งกุนซือของ อาร์เตต้า เขาสามารถเนรมิตให้สังเวียนแข้ง ที่ทันสมัยเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศ ที่ครึกโครม และทำให้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แปลงเป็นสมรภูมิที่น่านับถือของทีมคู่แข่งไปแล้ว

จากการลงเล่นเกมลีกนัดเหย้า 9 นัดในฤดูกาลนี้ เดอะ กันเนอร์ส ส่งผลงานชนะ 8 เสมอ 1 เก็บได้ทั้งหมด 25 แต้มจาก 27 แต้มโดยในปริมาณนี้เป็นเกมปลิดชีพทีมใหญ่อย่าง สเปอร์ส , หงส์แดง และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม

มันยังไม่ใช่แค่นี้ ครึ่งซีซั่นที่พ้นไป ทีมของ อาร์เตต้า ลงเล่นนัดเยือนมากกว่านัดเหย้าด้วย มันจึงแสดงว่าพวกเขาเหลือเกมในบ้านช่วงครึ่งฤดูกาลหลังมากกว่าเกมเยือนรวมทั้งหมด 10 นัดด้วยกัน

3. สภาพจิตใจ

ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้อีกเช่นเดียวกันว่าเรื่องของหัวจิตหัวใจเปรียบเหมือนข้อเสียที่ทำให้ อาร์เซน่อล ร้างราจากความสำเร็จในหลายปีหลัง

สำหรับประเด็นนี้ ไม่ต้องดูไปไกลเลย ด้วยเหตุว่าฤดูกาลก่อนอาร์เซน่อล ล้มฟุบในโค้งสุดท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ และมีอันต้องเสียโควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ สเปอร์ส ทีมคู่แค้นจนได้

“เราไม่ดีพอในหลายปีหลังต่อการร่วมลุ้นคว้าแชมป์ มันเป็นสิ่งที่เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราทำได้ แต่คำพูดไม่มีความหมาย เราต้องลงมือทำในสนาม” อาร์เตต้า เอ่ย

“เราต้องมีความสมดุลย์ของสภาพร่างกายและจิตใจ มันเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นของทีม คุณจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ”

“หากปราศจากสิ่งนี้ คุณจะไม่มีทางต่อสู้อย่างยาวนานเป็นเวลา 11 เดือนได้เลย และเราต้องสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาในทีม”

ถึงขณะนี้ อาร์เตต้า ไปถึงเป้าหมายแล้วจากหลักฐานการนำทีมบุก ไปเก็บสามแต้มได้อย่างไม่ลำบากทั้งเกมเยือน เชลซี และ สเปอร์ส ในฤดูกาลนี้

ขณะเดียวกัน พวกเขายังแซงชนะ เวสต์แฮม ได้ด้วย รวมทั้ง ฟูแล่ม และ แมนฯ ยูไนเต็ด กับการทำประตูชัยในช่วงท้ายเกมใส่ เจ้าสัวน้อย และ ผีแดงทั้งๆที่ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ไม่เคยกลับสู่เกมได้เลยหลังเสียประตูก่อน ถ้าแต่วันนี้แม่ทัพ ปืนใหญ่ มีพลังแอบแฝงอย่างที่เห็น

ขณะเดียวกัน มั่นใจว่าการย้ายมาของทั้ง กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ อดีตสองตัวรุก แมนฯ ซิตี้ ซึ่งไปถึงเป้าหมายได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ เรือใบสีฟ้า มาแล้วช่วยจุดประกายให้ห้องแต่งตัวของ อาร์เซน่อล ให้มีสภาพจิตใจที่หนักแน่นด้วยเหมือนกัน

4. ความยอดเยี่ยมของ โอเดการ์ด และ ซาก้า

เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ สำหรับทุกทีมที่คว้าแชมป์ซึ่งจำเป็นจะต้องมีนักเตะ ที่ร่ายเพลงแข้งได้อย่างสุดดีเลิศพร้อมๆกันอย่างต่ำสองราย และสำหรับ อาร์เซน่อล ชุดนี้พวกเขามี มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บูคาโย่ ซาก้า เป็นตัวชูโรง

จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 19 นัด ซาก้า ซึ่งพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรุดหน้าไปๆมาๆกในระยะหลังส่งผลงานยิงได้ 7 ประตูและ 7 แอสซิสต์

ด้านกัปตันทีม โอเดการ์ด กลายเป็นจอมทัพของทีม ปืนใหญ่ เต็มกำลังแล้วในซีซั่นนี้จากการระเบิดฟอร์มสุดยอดได้อย่างต่อเนื่องพาทีมกำชัยเป็นว่าเล่น

ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว ซาก้า ก็เลยมีลุ้นครอบครองรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ขณะที่ โอเดการ์ด ก็น่าจะได้ลุ้นซิวรางวัลใหญ่ด้วยเช่นเดียวกัน

“เอ้อร์ลิ่ง ฮาลันด์ สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อย่าเข้าใจผมผิด หาก ฮาลันด์ ทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ อาร์เซน่อล ได้แชมป์ลีก โอเดการ์ด จะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีสำหรับผม” ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เอ่ยออกมาเมื่อไม่นาน

5. ไม่ได้เล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

เป็นเรื่องช้ำใจอย่างแรงที่ อาร์เซน่อลวืดการคว้าอันดับท็อปโฟร์เมื่อซีซั่นก่อน แต่สำหรับฤดูกาลนี้พวกเขาไม่มีวันปล่อยให้โควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก หลุดมือแน่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วทีมลูกหนังแห่งกรุงลอนดอนจะเข้าเส้นชัยซิวแชมป์ลีกได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม

ต่อการพลาดโควต้าดังกล่าว แปลงเป็นเรื่องดีด้วยเหมือนกันเนื่องจากว่า อาร์เซน่อล ไม่มีความจำเป็นต้องทุ่มสมาธิให้กับศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์เหมือนกับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งจะทำให้ทีม ปืนใหญ่ ย้ำผลลัพธ์ของเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเต็มที่

และที่สำคัญ ไม่ใช่ความลับแม้แต่น้อยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กระหายพา เรือใบสีฟ้า คว้าถ้วยหูใหญ่มาครอบครองเป็นสมัยแรกให้ได้ด้วยเหตุว่ามันเป็นโทรฟี่ใบสุดท้ายที่เขายังนำมามอบให้กับทีมเงินถังไม่สำเร็จ

ถึงขณะนี้ ถึงแม้ กวาร์ดิโอล่า ยังหวังป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเกิดแลกได้ เขาหวังพาทีมซิวถ้วยหูใหญ่มาครองมากยิ่งกว่าซึ่งบางทีอาจเอื้อประโยชน์ให้กับ อาร์เซน่อล ไปโดยปริยาย

ในทางกลับกัน แม้ เดอะ กันเนอร์ส จำเป็นต้องลงเล่นเกมกลางสัปดาห์ในถ้วย ยูโรปาลีก แต่ผู้จัดการทีมฟุตบอลสแปนิชไม่คิดมุ่งมั่นอยู่แล้วกับการโรเตชั่นทีมเพื่อเก็บความสดเอาไว้ไล่ล่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นหลัก

6. คอยการคัมแบ็คของ เชซุส

การบาดเจ็บของ กาเบรียล เชซุส ในศึก บอลโลก ถูกคิดว่าจะบั่นทอนช่องทางครอบครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซน่อล

แต่เอาเข้าให้จริงๆการร้างสนามไปนานของดาวยิงทีมชาติ บราซิล ไม่ได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อ อาร์เซน่อลเลยแม้แต่น้อยในเมื่อพวกเขามี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ฉายฟอร์มเด็ดทำประตูในลีกได้ 4 จาก 5 นัดนับตั้งแต่เดือนเดือนธันวาคมที่ฟุตบอลลีกกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง รวมถึงสองประตูในเกมสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ด้วย

อย่างไรก็ดี อาร์เซน่อลกำลังรอคอยการกลับมาของ เชซุส อย่างใจจดใจจ่อเพราะว่าเขากระแทกประตูให้ทีมไปแล้ว 5 ลูก และ 6 แอสซิสต์จากการลงเล่นเกมลีก 14 นัดก่อนผละไปรับใช้ชาติ

ฉะนั้นแล้ว ถ้าหาก เชซุส ฟิตกลับมาลงสนามเมื่อไร มันก็เปรียบได้กับ อาร์เซน่อลได้นักเตะใหม่เพิ่มเติมอีกรายซึ่งจะก่อให้พวกเขามีความน่าเกรงขามมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ ศึก บอลโลก 2022 ทำให้นายทัพของ กวาร์ดิโอล่า หมดพลังไปไม่น้อยจากการลงเล่นที่ กาตาร์ รวมกันเป็นจำนวน 4,572 นาที

ผิดกับอาร์เซน่อล ซึ่งนักฟุตบอลของ อาร์เตต้า ลงเล่นให้แผ่นดินกำเนิดรวมกันแค่ 1,700 นาที และมันจะทำให้พวกเขามีความสดใหม่เหนือกว่า แมนฯ ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

สรุปทุกประเด็นข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่สำคัญ ของแวดวงฟุตบอล ในรอบวันของบรรดา บิ๊กทีมในศึก ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ลาลีกาสเปน, กัลโช เซเรีย อา อิตาลี, ลีกเอิงฝรั่งเศส และ บุนเดสลีกาเยอรมัน

ตลาดซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ประกาศเปิดตัว ดานิโล กองกลางชาวบราซิลจาก พัลไมราส มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์โดยจะเซ็นสัญญายาว 6 ปีครึ่งด้วยกัน – OFFICIAL

หงส์แดง ต้องการจะเซ็นสัญญากับทั้ง จู้ด เบลลิงแฮม กองกลางจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ มาเธอุส นูเนส มิดฟิลด์จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ในตอนซัมเมอร์หน้า – พอล จอยซ์ (เดอะ ไทม์)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มมีการเสี่ยงที่อาจจะต้องเสีย ดาวรุ่งพุ่งแรง อย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช หลังจากสัญญาที่เหลืออีกไม่ถึง 18 เดือน แต่การเจรจาค่าเหนื่อยยัง ตกลงกันมิได้จากเดิมที่รับอยู่ เพียงแค่ 7,000 ปอนด์ต่ออาทิตย์ ซึ่ง ปีศาจแดง พยายามจะยื่นข้อเสนอที่ 20,000 ปอนด์ แต่ถูกปฏิเสธไป โดยมี ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ที่พร้อมจะมอบข้อแนะนำก้อนโตหากนักเตะต้องการจะย้ายทีม – มิเกล เดลานีย์ (อินดิเพนเดนซ์)

นิวคาสเซิล กำลังให้ความสนใจในตัว 3 แข้ง เชลซี มี รูเบน ลอฟตัส ชีค คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์ และ ฮาคิม ซิเยค

ลีดส์ ยูไนเต็ด เตรียมจะยื่นข้อเสนอ ครั้งใหม่มูลค่ามากกว่า 22 ล้านปอนด์ให้กับ อองเชร์ พิจารณาแลกกับการปล่อยตัว อัซซาดีน อูนาฮี

สกอตต์ แมคโทมิเนย์ เริ่มกังวลใจเกี่ยวกับจังหวะ สำหรับในการลงสนามกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทามกลางข่าวเกี่ยวพันกับ นิวคาสเซิล – ลุค เอ็ดเวิร์ตส์

อาร์เซนอล พร้อมจะยื่นข้อเสนอราว 70 ล้านปอนด์ให้กับ เวสต์แฮม แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว ดีแคลน ไรซ์ ในช่วงซัมเมอร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมจะขึ้นค่าแรงให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในสัญญาฉบับใหม่จากเดิม 200,000 ปอนด์ ต่ออาทิตย์ แต่พวกเขาไม่ต้องการที่ทำลายเพดานที่ตั้งไว้ที่ 300,000 ปอนด์ซึ่งบางทีก็อาจจะยังไม่พอสำหรับสตาร์ฟอร์มแรงรายนี้ – แมนเชสเตอร์ อีฟเวนิง นิวส์

วูล์ฟแฮมป์ตัน บรรลุกติกามูลค่า 4.5 ล้านปอนด์สำหรับเพื่อการคว้าตัว ปาโบล ซาราเบีย จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แล้ว โดยนักเตะ กำลังมายัง อังกฤษ

เชลซี มีแผนในการจะคว้าตัว มอยเซ ไซเซโด้ กองกลางของ ไบรท์ตัน ที่ถูกตั้งค่าตัวไว้ราว 75 ล้านปอนด์โดยที่ สิงห์บลู พร้อมจะเปิดพูดจาข้อเสนอแนะแรกที่ 65 ล้านปอนด์

ไบรท์ตัน ไม่ยอมรับข้อแนะนำของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่ขอซื้อ เลอันโดร ทรอสซาร์ด ที่ 12 ล้านปอนด์

เอฟเวอร์ตัน นิวคาสเซิล และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กำลังมีความสนใจในตัว ปีโร ฮินคาพี กองหลังชาวเอกวาดอร์วัย 21 ปี

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กระโดดร่วมวงล่าตัว อาร์นัลต์ ดันจูมา ปีกตัวเก่งของ บียาร์เรอัล ด้วยสัญญายืมตัว

ลีดส์ ยูไนเต็ด กำลังมีความสนใจในตัว เซนน์ ลัมเมนส์ ผู้รักษาประตูวัย 20 ปีของ คลับ บรูช

อาร์เซนอล กำลังให้ความสนใจในตัว ฟาคุนโด้ ตอร์เรส ปีกวัย 22 ปีชาว อุรุกวัย ของ ออลันโด้ เอฟซี

อาร์เซนอล เปลี่ยนเป้าหมาย ในแดนหน้ามาเป็น ดูซาน วลาโฮวิช แผงหน้าจาก ยูเวนตุส แทนหลังจากพลาดการจับตัวได้ มิเคย์โล มูดริค

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเปิดสนทนากับ อินเตอร์ มิลาน เพื่อขอซื้อตัว เดนเซล ดุมฟรีส์

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่สนใจในตัว อาร์นัลต์ ดันจูมา ปีกของ บียาร์เรอัล

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาร์เซนอล และ นิวคาสเซิล เป็นสามทีมที่พึงพอใจในตัว วิคเตอร์ โอซิเมน แนวรุกจาก นาโปลี

เอเยนต์ มาร์โก รอยส์ ถูกพบว่าเดินทางมายังเมืองแมนเชสเตอร์ ท่ามกลางข่าวลือการย้ายออกจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซัมเมอร์นี้

ตลาดซื้อขายนักเตะ ลาลีกาสเปน

เมมฟิส เดปาย ยืนยันว่าเขาจะไม่ย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ในเดือดมกราคมนี้ แต่มีเป้าหมายอยู่ที่ แอตเลติโก้ มาดริด

เริ่มมีการถามเกี่ยวกับอนาคตของ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า กองกลาง ดาวรุ่ง ของประเทศฝรั่งเศส ที่ดูเหมือน จะไม่อยู่ในกลยุทธ์ทำทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ

บาร์เซโลนา พร้อมจะปล่อยเนื้อปล่อยตัว ราฟินญา ออกจากทีมภายในเดือนมกราคมนี้ แต่ก็จำต้องได้ค่าตัวมากกว่า 100 ล้านปอนด์เพียงแค่นั้น – เดลี เมล

ตลาดซื้อขายนักเตะกัลโช เซเรีย อา อิตาลี

เฮลลาส เวโรนา ประกาศเปิดตัวสองนักเตะใหม่ เจย์เดน บราฟ กองหน้าวัย 20 ปีจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เดโยไวซิโอ ซีฟุค แบ็คขวาจาก แฮร์ธา เบอร์ลิน มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว – OFFICIAL

ดีลสลับขั่วระหว่าง มาร์เซโล โบรโซวิช ของ อินเตอร์ มิลาน กับ ฟรองค์ เคซิเย ของ บาร์เซโลนา ขึ้นอยู่กับตัว เคซิเย ว่าสนใจจะกลับไปค้าแข้งในอิตาลีอีกครั้งหรือไม่ – ดิ มาร์ซิโอ (สกาย สปอร์ตส์)

ตลาดซื้อขายนักเตะลีกเอิงฝรั่งเศส

ตูลูส เปิดตัว กาเบรียล ซูโซ แบ็คซ้ายจาก โคโล-โคโล มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว อย่างเป็นทางการ

นีซ กำลังเจรจา กับ Hervé Renard เฮอร์เว เรนาร์ด ผู้จัดการทีมของ ซาอุดิอาระเบีย เข้ามาทำหน้าที่แทน ลูเซียง ฟาฟร์

อัล นาสเซอร์ กำลังสนใจในตัว เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ตลาดซื้อขายนักเตะบุนเดสลีกาเยอรมนี

ฮัมบูร์ก เปิดตัว ฟรานซิสโก้ มอนเตโร กองหลังจาก เบซิกตัส มาร่วมทีม ด้วยสัญญายืมตัวจนกระทั่งจบฤดู

โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ไม่ยอมรับข้อเสนอ 8 ล้านยูโรบวกโบนัสที่ 1 ล้านยูโรของ บาเยิร์น มิวนิค สำหรับการขอซื้อตัว แยนน์ ซอมเมอร์ นายทวารชาวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไปร่วมทีม

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องการจะเก็บตัว จู้ด เบลลิงแฮม เอาไว้กับทีม โดยจัดแจงจะยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อนก้อนโต เพื่อล่อใจกองกลาง ชาวอังกฤษ รายนี้

“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ( สเปอร์ส )ต้านฟอร์มสุดปังของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ไม่ไหวพ่ายแพ้คาบ้าน 0-2 เป็นความพ่ายในถิ่นหนแรกรอบ 9 ทีม ทำให้ยังอยู่อันดับ 5 ในขณะที่ “อาร์เซนอล” ยึดจ่าฝูงยาว โดยหนีแมนฯซิตี้ เป็น 8 แต้ม จากเกม 18 นัด

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 นัดวันอาทิตย์ที่ 15 เดือนมกราคม 2566 ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ผลงานนัดที่แล้ว สเปอร์ส โชว์ฟอร์มดุบุกไปถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-0 ทำให้ลูกทีมของ “อันโตนิโอ คอนเต้” บัดนี้ทีมอยู่อันดับ 5 ของตาราง ลงเตะ 18 นัดมีอยู่ 33 แต้ม ตามหลังอันดับ 4 นิวคาสเซิ่ล 2 แต้ม

ด้านทีมเยือน อาร์เซนอล ของ “มิเกล อาร์เตต้า” ครอบครองจ่าฝูงอย่างแน่นแฟ้น จากผลงานลงสนาม 17 นัดมี 44 แต้ม ห่างจากอันดับสอง แมนซิตี้ 5 คะแนน และเตะน้อยกว่า 1 นัด

โดยเหตุนี้ถ้าหากทีมปืนใหญ่บุกไปเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ ก็จะฉีกหนีออกไปเป็น 8 แต้ม หลังจาก แมนฯซิตี้ บุกไปพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ครึ่งแรก GOAL นาทีที่ 14 สเปอร์ส เจ้าถิ่นที่ไม่แพ้ปืนใหญ่มายาวนานหลายปี กลับมาเสียประตูแรกไปก่อน จากจังหวะการสวนกลับเร็วของ อาร์เซนอล เมื่อแนวรุกทีมเยือนได้บอลรุกถึงเส้นหลัง ตวัดมาหน้าประตู บอลแฉลบขานักเตะเจ้าบ้าน ก่อนไปโดน อูโก้ โยริส เต็มอกเด้งเข้าประตูไป เป็นลูกที่ยิ่งเข้าประตูของตัวเองของ อูโก้ โยริส สกอร์ขยับ สเปอร์สตามหลัง อาร์เซนอล 0-1

GOAL นาทีที่ 36 “ไก่” ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เมื่อมาเสียประตูที่สองจากความยอดเยี่ยมของ มาร์ติน โอเดการ์ด จับบอลได้กลางสนาม ก่อนกระชากเข้ากลาง แล้วซัดไกลบริเวณศีรษะนอกจุดโทษ บอลพุ่งเรียดเบียดเสาเข้าประตูไป ทำให้ สเปอร์ส ตามหลัง อาร์เซนอล 0-2 แล้วจบครึ่งแรกสกอร์นี้

ครึ่งหลัง สเปอร์ส พยายามบุกหนักหวังเอาคืน แต่เจาะไม่เข้า หมดเวลาการแข่งขัน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แพ้ อาร์เซนอล 0-2 เป็นความพ่ายของ “ไก่เดือยทอง” ในการพบ อาร์เซนอล ในบ้านคราวแรกในรอบ 9 ปี ทำให้มี 33 แต้มเหมือนเดิมอยู่ในอันดับ 5 ในขณะที่ อาร์เซนอล จ่าฝูงหนี แมนฯซิตี้ เป็น 8 แต้ม จาก 18 เกม

ผู้เล่นตัวจริง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ระบบการเล่น 3-4-2-1)

อูโก้ โยริส (ผู้รักษาประตู)

คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ไดเออร์, เกลมองต์ ลองเลต์, แมตต์ โดเฮอร์ตี้, ปาเป้ ซาร์, ไรอัน เซสเซยง, ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน

ผู้เล่นตัวจริง อาร์เซนอล (ระบบการเล่น 4-3-3)

อารอน แรมสเดล (ผู้รักษาประตู)

เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, กรานิต ชาก้า, โธมัส ปาร์เตย์, บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

แฟนบอล ‘สเปอร์ส’ ปีนข้ามรั้วเตะใส่ ‘แรมสเดล’ ในเกมบิ๊กแมตช์

เกิดเหตุวุ่นวายหลังจากจบเกม เมื่อแฟนบอลของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รายหนึ่งป่ายปีนรั้วสนามขึ้นมาเตะเข้า ที่หลังของ อารอน แรมสเดล ผู้เฝ้าประตูของ อาร์เซนอล

เกมพรีเมียร์ลีก อาทิตย์ที่ 20 อาร์เซน่อล เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปด้วยสกอร์ 2-0 โดยได้ประตูจากวิธีการทำเข้าประตูตัวเองของ อูโก้ ยอริส และ มาร์ติน โอเดการ์ด ทำให้รั้งจ่าฝูงต่อไปนำอันดับสองอยู่ 8 คะแนน

แต่แต่หลังจบเกม มีการปะทะคารมกันน้อยระหว่าง แรมสเดล กับ ริชาร์ลิซอน และในจังหวะที่นายด่าน ทีมชาติอังกฤษเดินไปจับขวดน้ำที่หลังประตูก็ถูกแฟนบอล สเปอร์ส รายหนึ่งผ่านรั้วมาเตะใส่แผ่นหลังเข้าอย่างจัง จนกระทั่งหวิดมีเรื่อง

สำหรับ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และ พรีเมียร์ลีก จะมีข้อบัญญัติโทษ สเปอร์ส อย่างแน่แท้ในกรณีนี้ โทษฐานปล่อย ให้แฟนบอลของตนทำร้ายนักฟุตบอลฝั่งตรงข้าม

ส่อโดนลงดาบ! แฟนสเปอร์สผ่านรั้วมาเตะ’แรมสเดล’

แฟนบอลไก่เดือยทองรายหนึ่งข้ามรั้วสนามมาเตะนายด่านไอ้ปืนใหญ่หลังจบเกม

เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นหลังจบเกม พรีเมียร์ลีก คู่ระหว่าง ท็อตแนใ ฮ็อทสเปอร์ พบ อาร์เซนอล เมื่อแฟนบอลเจ้าถิ่นรายหนึ่งป่ายปีนรั้วสนามขึ้นมา เตะเข้าที่หลังของ อารอน แรมสเดล ผู้เฝ้าประตูของทีมเยือน

ไอ้ปืนใหญ่ โชว์ฟอร์มโหดเหี้ยมบุกชนะ ไก่เดือยทอง 2-0 แต่หลังจบเกมมีการปะทะคารมกันเล็กน้อยระหว่าง แรมสเดล กับ ริชาร์ลิซอน และในจังหวะที่นายด่านทีมชาติอังกฤษเดินไปจับขวดน้ำที่หลังประตูก็ถูกแฟนบอล สเปอร์ส รายหนึ่งข้ามรั้วมาเตะใส่แผ่นหลังเข้าอย่างจังจนหวุดหวิดมีเรื่อง

“คอนเต” โอด “สเปอร์ส” แพ้ “อาร์เซนอล” ด้วยเหตุว่าคนคนเดียว-ชี้มีแค่ 2 ทีมแย่งแชมป์ลีก

อันโตนิโอ คอนเต ผู้จัดการทีมฟุตบอลทอตแนม ฮอตสเปอร์ ออกมาเปิดใจหลังพาทีมแพ้ อาร์เซนอล คาบ้าน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดปัจจุบัน

วันที่ 16 ม.ค. 66 อันโคนิโอ คอนเต ผู้จัดการทีม “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ กล่าวสรรเสริญ อารอน แรมส์เดล ผู้เฝ้าประตูอาร์เซนอล ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในเกมที่ไก่เดือยทอง เปิดบ้านแพ้ ปืนใหญ่ ไป 0-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมยก อาร์เซนอล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็น2 ทีมที่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูนี้

คอนเต พูดว่า “มันยากที่จะกลับมาหลังจากที่เราเสีย 2 ประตู ตอนที่เราเสียประตูแรก เรามีความเป็นไปได้ที่จะตีเสมอจาก ซอน เฮือง มิน แต่ผู้รักษาประตูของพวกเขาก็เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้นพวกเขาก็ยิงประตูที่สองได้ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อทุกคน แต่ไม่ใช่ลูกทีมของผม เพราะในครึ่งหลังเราพยายามอย่างหนักที่จะทำประตูและสร้างปัญหาให้กับอาร์เซนอล ผู้รักษาประตูของพวกเขาเซฟได้ยอดเยี่ยมหลายครั้งในเกมนี้

“ตอนนี้อาร์เซนอลเป็นคู่แข่งที่ยากจะต่อสู้ เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งสองทีมกำลังแย่งชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก เราเล่นกับทีมที่แข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่ได้ผิดหวังกับความมุ่งมั่นของลูกทีมของผม พวกเขาแสดงความมุ่งมั่นที่จะพยายามกลับมาให้ได้ บางครั้งที่ผ่านมาเราเคยทำได้ แต่วันนี้ผู้รักษาประตูของพวกเขาเก่งมากๆ อาร์เซนอลแสดงให้เห็นว่าเป็นทีมที่ดีจริงๆ พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์กับแมนฯ ซิตี้ พวกเขาเป็นแค่สองทีมที่สามารถต่อสู้เพื่อพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ได้”

 

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ( แมนยู ) พบงานไม่หนักในรอบรองชนะเลิศ ลีก คัพ ส่วนอีกคู่ เซาแธมป์ตัน ปะทะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

วันที่ 12 ม.ค. 66 การเปลี่ยนแปลงการแข่งขันฟุตบอล ลีก คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ล่าสุดได้ 4 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, นอตติงแฮม ฟอเรสต์ และ เซาแธมป์ตัน ซึ่งผลการจับฉลากประกบคู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายมีดังนี้

• เซาแธมป์ตัน เจอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
• นอตติงแฮม ฟอเรสต์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับการแข่งขันฟุตบอล ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันในระบบเหย้า-เยือน โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน ฟอเรสต์ ก่อน ส่วนอีกคู่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน

สำหรับเกมแรกจะ ทำการแข่งขันช่วงอาทิตย์วันที่ 23 เดือนมกราคม และเกมที่สองฟาดแข้งช่วงสัปดาห์วันที่ 30 เดือนมกราคม โดยจะมีการประกาศวันแข่งอย่างเป็นทางการถัดไป

แมนยู ดวลฟอเรสต์ เซาแธมป์ตันพบนิวคาสเซิล ตัดเชือกคาราบาว คัพ

ปีศาจแดงได้ ดวลเจ้า ป่าในรอบตัดเชือกคาราบาว คัพ ส่วนอีกคู่เป็นนักบุญพบกับสาลิกาดง

ผลการจับฉลากการประกบคู่ คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ผลปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ส่วน เซาแธมป์ตัน ได้เจอกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

ปีศาจแดง เอาชนะทีมจากลีกวันอย่าง ชาร์ล์ตัน แอธเลติก แบบไม่ยากเย็น 3-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จับฉลากได้มาดวลกับ เจ้าป่า ซึ่งดวลจุดลูกโทษชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 4-3 (เสมอใน 90 นาที 1-1)

ส่วนอีกคู่ นักบุญ ที่สร้างเซอร์ไพรส์เปิดบ้านชนะยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 จะได้ปะทะกับ สาลิกาดง ซึ่งก็เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศมาด้วยสกอร์เดียวกัน 2-0

ทั้งนี้ รอบรองชนะเลิศนัดแรก จะชิงชัยในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 23 มกราคม ส่วนนัดสองจะชิงชัยในช่วงอาทิตย์ของวันที่ 30 มกราคม โดยที่มีชื่อเริ่มจะได้เป็นเจ้าบ้านก่อนในนัดแรก

คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เซาแธมป์ตัน เจอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

มีส่วนพาทีมบินสูง! 4 แข้งแมนยู ฟอร์มเปรี้ยงมากสุดในยุคเทนฮาก

เปิดรายชื่อ 4 แข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ร้อนแรงที่สุดในยุคของ เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ จนทีส่วนสำคัญพาทีมทำผลงานติดลมบนอยู่ในขณะนี้

4.ดาบิด เด เคอา

แม้ว่าทีมจะส่งผลงานตกต่ำ ในตอนต้นฤดูกาล แต่จะต้องยอมรับว่าฟอร์มของนายด่าน ชาวสแปนิชยอดเยี่ยมในผู้เล่นที่เด่นที่สุดในยุคของ เทน ฮาก โดยโชว์ ซูเปอร์เซฟ ช็อตสำคัญช่วยทีมรอดพ้นจากการเสียประตูได้หลายหน

เด เคอา เก็บคลีนชีตได้ 8 ครั้งซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นอับดับสองร่วมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ขณะเดียวกันในศึกยูโรปาลีกเจ้าตัวก็เก็บคลีนชีตได้ 4 จาก 6 นัดในศึกยูโรปาลีก

แน่นอนว่าจากผลงานเหล่านี้ เด เคอา ควรจะได้รับเครดิตไปเต็มๆและถ้าเกิดยังรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอก็ทำให้เขาได้โอกาสครอบครองรางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกก็เป็นได้

3.คริสเตียน เอริกเซ่น

มิดฟิลด์ชาวเดนมาร์กเพิ่งจะย้ายมาเล่นใน โรงละครแห่งความฝัน เป็นซีซั่นแรก หลังหมดสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมา

การมาของ เอริกเซ่น นั้นเขามาช่วยยกระดับแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเห็นได้ชัด โดยการทำไป 2 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 26 นัดในฤดูกาลนี้ และแปลงเป็นแข้งที่ทำแอสซิสต์มากมายสุดเป็นอันดับสองในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย

2.กาเซมีโร่

แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงินสูงถึง 70 ล้านปอนด์ ดึงตัวมิดฟิลด์ชาวบราซิลมาจาก เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และจนกระทั่งเวลานี้เขาได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวก “เร้ด เดวิลส์” ไปเรียบร้อย หลังเข้ามาแก้ข้อเสียในแดนกลางให้กับทีมได้ แบบไร้ข้อครหา

ดาวเตะวัย 30 ปี เปลี่ยนเป็นหัวใจแดนกลางของ “ปีศาจแดง” โดยนอกเหนือจากที่จะตัดเกมแนวรุกคู่แข่งได้ดีแล้ว เขายังมีส่วนกับเกมรุกของทีมด้วย โดยทำไป 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 24 เกมในฤดูกาลนี้

การตัดสินใจเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ชาวบราซิลนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกโฉมหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเลย

1.มาร์คัส แรชฟอร์ด

ชื่อของ แรชฟอร์ด เคยแทบจะเป็นดาวดับไปแล้ว หลังจากมีผลงานที่ดิ่งลงเหวในยุคก่อนหน้าที่ เทน ฮาก จะเข้ามากุมบังเหียน จนถึงมีอนาคตที่ไม่แน่นอนในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

แม้กระนั้นในซีซั่นนี้ดาวเตะวัย 25 ปี กลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้อีกครั้ง โดยตะบันไปถึง 15 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 25 เกม และเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมเวลานี้ด้วย

ถ้าหากสุดท้ายเขายังสามารถรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอมันจะก่อให้ค่าในตลาดนักเตะจะสูงขึ้น และน่าดึงดูดว่าเขาจะสามารถพาทีมครองแชมป์รายการต่างๆในปีนี้ได้ไหม

“ทีมชาติโปรตุเกส” ประกาศแต่งตั้ง “โรแบร์โต มาร์ติเนซ” เข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทีม ต่อจาก “เฟร์นานโด ซานโตส” ที่พาทีมทำผลงานในศึก “บอลโลก 2022” ได้อย่างน่าผิดหวัง

วันที่ 9 ม.ค. 65 “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ประกาศแต่งตั้ง โรแบร์โต มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสเปน เข้ามารับตำแหน่ง กุนซือ คนใหม่ของทีม ต่อจาก เฟร์นานโด ซานโตส ที่พาทีมทำผลงานในศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ที่ประเทศกาตาร์ ได้อย่างน่าผิดหวัง ด้วยการตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ทั้งนี้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ บอกว่า “ด้วยความสัตย์จริง ผมมีความสุขที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ผมรู้ยินดีที่จะเข้ามาเป็นโค้ชของทีมที่มีผู้เล่นพรสวรรค์มากที่สุดในโลกฟุตบอล ผมรู้ถึงสิ่งนี้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกับสมาคมฟุตบอลโปรตุเกส ผมรู้ว่านี่คือโปรเจกต์ที่เหมาะสมกับผม ผมรู้ถึงความคาดหวังและเป้าหมายที่สูงมากๆ ของทีมและผมเชื่อว่าผมจะได้ร่วมงานกับกลุ่มคนที่พร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่อไปถึงเป้าหมาย”

สำหรับ โรแบร์โต มาร์ติเนซ จะเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลต่างชาติคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของ “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ต่อจาก ออตโต กลอเรีย และ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี.

ทางการ ทีมชาติโปรตุเกส ตั้งโรเบร์โต มาร์ติเนซ นั่งกุนซือคนใหม่

ทีมชาติโปรตุเกสประกาศแต่งตั้ง โรเบร์โต มาร์ติเนซ มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมเป็น กุนซือ ต่างชาติรายที่ 3 ซึ่งได้คุมทัพ “ฝอยทอง”

สำหรับ โปรตุเกส แยกทางกับ แฟร์นานโด ซานโตส ผู้จัดการทีมจอมเก๋า หลังจบศึก บอลโลก 2022 ที่ผ่านมาหลังเจ้าตัวพาทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังด้วยการตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ที่ผ่านมาทัพ “ฝอยทอง” ตกเป็นข่าวกับเฮดโค้ชหลายราย ทั้ง โชเซ มูรินโญ และโรเบร์โต มาร์ติเนซ เป็นต้น ถึงกระนั้นคนที่เป็นตัวเต็งหมายถึงมาร์ติเนซ ที่เพิ่งจะอำลาตำแหน่งกุนซือ ทีมชาติเบลเยียม หลังจบเวิลด์ คัพ 2022 เพราะเหตุว่าพาทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม

จนล่าสุด โปรตุเกส ได้แถลงแต่งตั้ง มาร์ติเนซ มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ทางการ พร้อมเป็นผู้จัดการทีมต่างชาติคนที่ 3 ที่คุมทัพ “ฝอยทอง” ต่อจาก อ๊อตโต กลอเรีย กับ หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี 2 กุนซือบราซิเลียน

ขณะที่เรื่องสัญญานั้น ฟาบริซิโอ โรมาโน ผู้สื่อข่าวคนมีชื่อเสียงกล่าวว่า มาร์ติเนซ ได้เซ็นถึงเดือน มิ.ย. 2026 ซึ่งนี่ก็แปลว่าเขาจะได้คุมทีมใน 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง ศึกยูโร 2024 และบอลโลก 2026

ทั้งนี้ มาร์ติเนซ วัย 49 ปีมีประสบการณ์ในการคุมทีมชาติเป็นเบลเยียม ตอนปี 2016-2022 ซึ่งผลงานดีที่สุดเป็นการอันดับ 3 ในศึกบอลโลก 2018

‘ฝอยทอง’ ตั้ง ‘มาร์ติเนซ’ คุมทัพแทน ‘ซานโต๊ส’ ถึงปี 2026

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ชาวสแปนิช ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทัพ โปรตุเกส อย่างเป็นทางการ หลังพึ่งจะตกงานได้ไม่นานนับตั้งแต่หมดสัญญากับ เบลเยียม โดยมีภารกิจสำคัญทั้งในศึกยูโร 2024 และ ฟุตบอลโลก 2026

ทีมชาติ โปรตุเกส ประกาศแต่งตั้ง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว แทนที่ แฟร์นานโด ซานโต๊ส ที่ล่ำลาทีม หลังทัพ ฝอยทอง ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ จากการพ่าย โมร็อกโก ม้ามืดของทัวร์นาเม้นต์ ไปอย่างเกือบ 0-1 โดยจะเซ็นสัญญาถึงปี 2026

นายใหญ่แดน กระทิงดุ เพิ่งจะหมดสัญญากับ เบลเยียม โดยพาทีมจบอันดับ 3 กลุ่ม เอฟ ชวดไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ ศึกเวิลด์คัพ ฉบับดินแดนอาหรับไปอย่างน่าผิดหวัง แต่เขาไม่มีงานทำได้ไม่นาน ก็ได้งานใหม่คุมแข้งโปรตุกีส และข้อความสำคัญเร่งด่วนที่สุดของเขาคือการชี้แจงสถานการณ์ของกัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเพิ่งจะเซ็นสัญญากับสโมสร อัล นาสเซอร์ ในซาอุดิอาระเบีย

ภายใต้การนำของเขา เบลเยียม อยู่ในอันดับต้นๆของการจัดอันดับโลกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เป็นเวลากว่าสามปี แต่ด้วยผลงานที่ไม่เป็นตามคาดที่กาตาร์ ต้องยุติเส้นทางก่อนกำหนด ทำให้ไม่ต่อสัญญา ซึ่งงานใหม่ของเขาจะได้คุม โปรตุเกส ลงเล่นในสองรายการสำคัญถ้าหากผ่านรอบคัดเลือก ทั้งศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนี ต่อด้วยบอลโลก 2026 ที่แคนาดา เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพร่วม

‘มาร์ติเนซ’ ยัน ‘โรนัลโด้’ ยังเป็นคนสำคัญของทีมชาติโปรตุเกส

หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ประกาศแต่งตั้งโรเบร์โต้ มาร์ติเนซ โค้ชชาวสเปนเป็นหัวหน้าโค้ช ทีมชาติโปรตุเกส คนใหม่อย่างเป็นทางการ ทำให้มีการซักถามถึงอนาคตของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าวัย 37 ปี ที่ย้ายออกจากวงการฟุตบอลยุโรปไปค้าแข้งกับอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย ว่ายังมีอนาคตกับทีมชาติหรือไม่

มาร์ติเนซกล่าวว่า หลังจากเข้ามารับงานอย่างเป็นทางการแล้ว จะติดต่อกับนักฟุตบอล 26 คนที่ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 มาก่อนหน้านี้ ซึ่งโรนัลโด้ก็เป็นเยี่ยมในนั้น และจะมีการพูดคุยกับโรนัลโด้อีกทีถึงการเล่นให้ทีมชาติของเขาหลังจากนี้ เขาเป็นนักฟุตบอลที่อยู่กับทีมชาติมา 19 ปี น่าจะได้รับการเคารพ ก็เลยควรมีการพูดคุยกันก่อน ส่วนหน้าที่ของ มาร์ติเนซ คือ การเลือกนักเตะที่ดีที่สุดที่จะไปลุย ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2024”

เหตุผลหนึ่งที่มาเลเซีย เป็นทีมที่คู่แข่งจำเป็นต้องหวาดหวั่น นั่นก็เนื่องจากมี บูกิต จาริล เป็นรังเหย้านั่นเอง ด้วยเหตุว่า บูกิต จาริล สเตเดี้ยม มีปริมาตร 87,411 ที่นั่ง และก็มักจะทำให้อาคันตุกะต้องอ่อนระโหยโรยแรงไปกับเสียงเชียร์ของแฟนคลับที่พร้อมจะกดดันคู่แข่ง ทุกวินาทีแบบประสานเสียงโดยพร้อมกัน จนแปลงเป็น ‘นรกของทีมเยือน’ร่วมส่งกำลังใจให้ฟุตบอล ทีมชาติไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมชาติไทย ที่ยังไม่เคยมาเอาชัยที่นี่ได้นานกว่า 9 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ได้เฮ ณ สังเวียนแข้งแห่งนี้ จำเป็นต้องย้อนกลับไปในศึก อาเซียน คัพ 2014 เลยทีเดียว

แฟนฟุตบอลอินโดนีเซีย ที่ว่าโหดๆมาที่มาเลเซีย กับ บูกิต จาริล ก็มิได้ด้อยไปกว่ากันเท่าไหร่

เสน่ห์อย่างหนึ่งของกลุ่ม ‘อุลตร้ามาลายา’ (ชื่อเรียกของแฟนบอลชาวมาเลเซีย) เป็นการที่พวกเขามีความปรองดองสูงมากๆไม่มีแบ่งแยกว่าจะมาจากก๊วนไหน ด้วยเหตุว่าเมื่อเข้าสนามแล้ว พวกท่านคืออันเดียว

มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อรรธจันทร์ที่ 4 ฟากฝั่งของ บูกิต จาริล จึงกระหึ่มไปด้วยเสียงเชียร์ที่ดังลั่นตลอดทั้งเกมการแข่งขัน ทำให้ทีมชาติไทยต้องใจแข็งกันหน่อย

ที่สำคัญเป็นอุลตร้ามาลายาบางครั้งก็อาจจะเป็นกองเชียร์ที่ดุเดือดขึงขังมากมายก็จริง ทว่าพวกเขาหนักหน่วงในเกมเพียงแค่นั้น ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แฟนๆทีมเยือน หรือสมาคมบอลของมาเลเซีย เลย

แต่พอเพียงเสียงนกหวีดเป่าปรี๊ด…พวกเขาพร้อมที่จะแหกปากกู่ร้องเพื่อบีบคั้นวิธีการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน, ส่งเสียงโวยวายเมื่อทีมของตัวเองเสียเปรียบ, ด่าว่าฝั่งตรงข้ามด้วยการเอาจริงเอาจัง และอีกสารพัดสิ่งที่เท่าที่จะทำได้ในกรอบระเบียบสากล

รอบแบ่งกลุ่มของ อาเซียน คัพ 2020 มาเลเซีย ทำไปได้ทั้งหมด 10 ประตู ซึ่งมีถึง 8 ลูก ที่มาจากการสร้างสรรค์เกมทางริมเส้น

ทัพเสือเหลืองแห่ง มาลายัน ชุดนี้มีฟูลแบ็กที่ดุดัน และพลังชายหนุ่ม ด้วยเหตุว่าอายุ 21 เสมอกัน ไม่ว่าจะเป็น อาซาม อัซมี่ ในฝั่งขวาที่นอกจากจะพละกำลังล้นเหลือ เขายังเป็นกองหลังที่มีวินัยสูง แถมยังมีลูกขยัน กัดไม่ปล่อย ซึ่งจะสร้างความรำคาญให้บรรดาแนวรุกฝั่งตรงข้ามแน่นอน

ขณะที่ฟากซ้าย รูเว็นธิราน เว็นกาเดซาน ก็เด่นในเรื่องเกมรับที่ไม่ปล่อยให้คู่แข่งผ่านได้อย่างง่ายดายซึ่งนำมาซึ่งการทำให้

บรรดาตัวรุกข้างบนของทีมไม่ต้องกังวลมากนัก

ทว่าจุดที่ ‘อันตราย’ มากมายที่สุดเป็น ‘ปีก’ ทั้งสองข้างของมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น ซาฟาวี่ ราซิด กับ ไฟซาล ฮาลิม ที่มีดีคนละแบบ

ฉะนั้น ‘เกมริมเส้น’ จึงเป็น ‘จุดแข็ง’ ของมาเลเซีย ชุดนี้ ซึ่งทาง อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เองก็คงจะรู้กันดี แต่เขาจะมีแผนรับมือกับความอันตรายของทัพเสือเหลืองแห่งมาลากระทั่งถึงก้าวหน้าเท่าใด คงจำเป็นต้องติดตามกันในรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 เกม

หนีห่าง เบรนแดน กัน

เขาบางทีก็อาจจะไม่โดดเด่นสะดุดตา แต่เมื่อใดที่ทีมเสือเหลืองแห่งมาลากระทั่งถึงมีเขาอยู่ในสนาม เมื่อนั้นรับประกันได้เลยว่าบรรดาแนวรุกจะเล่นกันได้อย่างสบายใจ ส่วนแผงหลังก็งานเบา เนื่องจากว่ามีคนเก็บกวาดให้ก่อนแล้ว

ที่จริงแล้วมิดฟิลด์เชื้อสาย มาเลเซีย-ออสเตรเลีย ต้องมีสถิติรับใช้ชาติมากกว่านี้ ถ้าแต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่เขาหลุดทีมไป รวมถึงการปลีกวิเวกไปรักษา ‘มะเร็งลูกอัณฑะ’ อยู่พักใหญ่

แต่ว่าพอกลับมาลงสนามให้เสือเหลือแห่ง มาลายัน เขาก็ทุ่มเทและทำผลงานออกมาเจริญมากๆเสมอ

กัน บางครั้งก็อาจจะไม่คล่องแคล่วนัก แต่เขาเป็นกองกลางที่เล่น ฟุตบอลด้วยสมอง เขาอ่านจังหวะของเกมได้เด็ดขาด มันก็เลยทำให้บอลสองของมาเลเซีย เก็บกินได้เสมอ ซึ่งก็มาจากการที่มีมิดฟิลด์วัย 34 ปี คนนี้คอยจัดการนั่นเอง

เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่แผ่รัศมีในสนาม แต่ประโยชน์นั้นมากมายสำหรับทีมของตัวเอง ซึ่งจุดนี้นี่แหละที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง คงจะต้องหาวิธีหลีกลี้ลูกครึ่งออสซี่ ให้ได้ เพราะว่าใน คิงส์ คัพ 2022 ก็เห็นๆอยู่ว่าที่ไทย ได้เพียงแค่ผลเสมอนั่นก็มาจากการที่ กัน สามารถจัดแจงกับแนวรุกช้างศึกได้นั่นเอง

สนใจแต่ฟุตบอลสิ่งเดียว

ครั้งสุดท้ายที่ทัพช้างศึกเอาชนะคู่แข่งรายนี้ได้จะต้องย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปี ที่แล้ว ซึ่งขณะนั้น เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล และสิ่งหนึ่งที่ ‘โค้ชซิโก้’ เน้นย้ำกับลูกทีมคือ ‘เล่นฟุตบอลอย่างเดียว’

ผู้ฝึกสอนชาวขอนแก่น สั่งย้ำนักเตะว่าไม่ต้องใส่ใจกับลูกตุกติกของฝั่งตรงข้าม คนใดกันแน่จะเล่นหนักก็ช่างปะไร เราพอใจเพียงแค่การแข่งขันก็พอ

ผลที่ออกมาคือความสำเร็จทั้งในทีมชาติชุดใหญ่ และชุดยู-23 ที่ฟาดแชมป์เป็นว่าเล่น กับครอบครองความเป็น เบอร์หนึ่งของอาเซียน อยู่นานพอสมควร ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนในภายหลัง

ฉะนั้นเกมที่จะบุกไปเยือนสนาม บูกิต จาริล ในวันเสาร์ที่ 7 มกราคมนี้ น่าจะควรมีสมาธิกับการแข่งขันให้มากมายที่สุด และก็อย่าว่อกแว่กกับแท็กติกการเตะหนักของมาเลเซีย เด็ดขาด

อย่าให้ ราซิด เล่นง่าย ทีมชาติไทย ต้องกดดันแบบสุดๆ

10 ประตู ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีชื่อของ ซาฟาวี่ ราซิด บนกระดานคะแนน แต่เขาก็มีถึง 4 แอสซิสต์ ซึ่งมากมายที่สุดใน อาเซียน คัพ 2022

แนวรุกป้ายแดงของ ราชบุรี เอฟซี คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ กับผลงานสำหรับในการสร้างสรรค์เกมที่สามารถทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะจ่ายบอลทะลุช่องหรือ ครอสจากริมเส้น

แม้ว่าจะอายุแค่ 25 ปี แต่ในช่วงเวลานี้เขาสะสมไมล์รับใช้ชาติไปแล้ว 50 เกม ซึ่งนั่นทำให้ประสบการณ์ของปีกรายนี้เข้มคลั่กและสามารถพยุงเพื่อนร่วมทีมได้

5 เกม หลังสุดที่เผชิญหน้ากับไทย – ราซิด มีส่วนร่วมทุกนัด และก็ทำให้เกิดความไม่สงบให้กับ แนวรับของช้างศึกอยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะทำไป 1 ประตู และมีอีก 1 แอสซิสต์

ที่สำคัญคือทั้ง 5 แมตช์ – มาเลเซีย ไม่เสียท่าต่อไทย เลยสักครั้ง

ด้วยเหตุดังกล่าวแม้จะหยุดเกมรุกของเสือเหลืองแห่งมาลายัน ก็จำต้องทำลายจังหวะการเล่นของ ราซิด ที่เปรียบเหมือนหัวใจในการขับเกมของ มาเลเซีย ให้อยู่หมัด

ผู้จัดการทีม แมนซิตี้ กล่าวคำยินดี 3 ศิษย์เอกหลังครอบครองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 พร้อมฝากวาทะเด็ดถึง ลิโอเนล เมสซี ก่อนดวล หงส์แดง

วันที่ 21 ธ.ค. 2565 เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์สำหรับในการแถลงข่าวก่อนเกมคาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบ 4 ที่จะปะทะกับ ลิเวอร์พูล ศัตรูร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 เดือนธันวาคมนี้ แข่งขัน 03.00 น. ตามเวลาของไทย

ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้กล่าวยินดีกับ 3 นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านการร่วมงานกันมา ทั้ง ลิโอเนล เมสซี ที่เคยอยู่ด้วยกันในทีมบาร์เซโลนา, นิโคลัส โอตาเมนดี ที่อยู่ด้วยกันกับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2016-2020 ก่อนย้ายไป เบนฟิกา และ ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าดาวรุ่ง “เรือใบสีฟ้า” ในชุดปัจจุบัน

เป๊ป เอ๋ยถึงอีกทั้ง 3 คนที่บรรลุผลสำเร็จในรายการใหญ่ที่สุดของวงการลูกหนังว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อสำหรับพวกเขา ทั้ง โอตาเมนดี และโดยเฉพาะ เมสซี รวมถึงดีใจแทน ฮูเลียน ที่ทำให้เรามีแชมป์บอลโลกอยู่ในทีม”

อดีตกุนซือบาร์เซโลนา ยังกล่าวถึง เมสซี อีกว่า “ไม่มีใครสงสัยเลยว่าเขาอยู่ในฐานะหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล มันคงยากที่จะมีผู้เล่นคนไหนสามารถทำได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาทำ แต่ต่อให้เขาไม่ได้แชมป์โลก ความคิดของผมที่มีต่อเขาก็ยังไม่เปลี่ยนไปอยู่ดี แต่ที่สุดแล้ว มันคือการเดินทางครั้งสุดท้ายบนเส้นทางอาชีพที่น่าทึ่งสำหรับเขา”

“แมนซิตี้” ขาด 10 แข้ง รับมือ “ลิเวอร์พูล” ศึกคาราบาว คัพ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ชของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับรองว่าจับตัวได้นักฟุตบอลที่ไปรับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก กลับมาสมทบกับทีมเพิ่มเติมอีก 6 คน แต่ยังขาดอีก 10 คนที่พักต่อ

เป๊ป กวาร์ติโอล่า กำลังเตรียมความพร้อมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับเกมที่จะเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 4 คืนวันนี้ โดยรับรองว่า 6 นักเตะที่ไปออกศึกเวิลด์คัพ ที่กาตาร์ ได้กลับมาสมทบ และลงฝึกหัดร่วมกับทีมแล้ว หลังจากที่ “เรือใบสีฟ้า” มีนักเตะที่เดินทางไปรับใช้ทีมชาติมากถึง 16 คน โดย เป๊ป รับรองว่า นักฟุตบอลกำลังทยอยเดินทางกลับมา

แต่ทั้ง 6 คนบางทีอาจจะยังไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมวันนี้ พร้อมด้วยสารภาพว่านักเตะที่ได้เล่นในฟุตบอลโลก อยู่ในสภาพที่ดีมากกว่าคนที่อยู่กับทีม

อย่างไรก็แล้วแต่ แมนฯ ซิตี้ ยังขาดนักเตะอีกถึง 10 ราย ที่ยังไม่ได้กลับมารายงานตัวฝึกหัดกับทีม ไม่ว่าจะเป็นแข้งทีมชาติอังกฤษอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์, คัลวิน ฟิลลิปส์, ฟิล โฟเด้น, จอห์น สโตนส์ และ แจ็ค กรีลิช รวมไปถึง เอแดร์ซอน, รูเบน ดิอาซ, ชูเอา กานเซโล่, แบร์นาโด้ ซิลวา และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ

โดยในราย ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่เพิ่งได้แชมป์โลกกับ อาร์เจนติน่า ได้สำเร็จนั้น เป๊ป ก็ได้ร่วมยินดีกับลูกทีมรายนี้ โดยกล่าวว่า “เราแฮปปี้กับเขามาก เขาได้ลงสนามเยอะ และเขาก็จะช่วยเหลือทีมได้เยอะมาก เรามีแชมป์โลกอยู่ในทีม” ซึ่งกุนซือ แมนฯ ซิตี้ ยืนยันว่า ได้อนุญาตให้ อัลวาเรซ พักผ่อนหลังจากกรำศึกหนักเป็นเวลา 10 วัน และจะกลับมาสมทบกับทีมในช่วงก่อนปีใหม่

นอกนั้น กวาร์ดิโอล่า ยังได้ยกย่องให้ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดไป และความนึกคิดของเขาก็จะไม่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่า อาร์เจนติน่า จะพลาดแชมป์โลกที่ กาตาร์ ก็ตาม

แมนฯ ซิตี้ พบ หงส์แดง พรีวิวก่อนเกม คาราบาว คัพ

แมนฯ ซิตี้ พึ่งจะลงอุ่นเครื่องกับ กิโรนา ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก่อนจะเอาชนะไปได้ 2-0 ส่วนในรายการนี้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา สามารถผ่าน เชลซี มาได้สบายๆ2-0 เหมือนกัน ก่อนที่จะโคจรมาเจอกับคู่ปรับแห่งยุคอย่าง หงส์แดง ที่ผลงานในปีนี้ยังไม่เข้าที่เขาทางสักเท่าไรนัก

ฝั่ง หงส์แดง กลับมาลงแข่งขันตามโปรแกรมอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากจบฟุตบอลโลกเเค่ไม่กี่วัน แถมยังเป็นเกมหนักด้วยการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกม คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในรอบที่ผ่านมาพวกเขาผ่าน ดาร์บี้ เคาน์ตี้ มาได้อย่างหวุดหวิดจากการดวลจุดลูกโทษตัดสินเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ฟรอมก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทีมของ เป๊ป กวาดิโอลา ไม่มีรายงานนักฟุตบอลเจ็บก่อนเกม แต่น่าจะยังไม่มีชื่อของ จูเลียน อัลวาเรซ ที่เพิ่งจะลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก กับทีมชาติอาร์เจนตินา ส่วนตัวหลักรายอื่นๆต่างฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกในเกมนี้ทั้งหมดทั้งปวง

คาดการความเป็นไปและผลการแข่งขัน

กลับมาลงฟาดแข้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับทั้งสองทีม ซึ่งเกมนี้คาดว่าทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะขนตัวหลักลงสนามเพื่อเป็นการเคาะสนิมก่อนเกมลีกจะเริ่มในคืนวันจันทร์ที่กำลังจะถึง นั่นทำให้เกมนี้บางทีอาจดูสนุกใกล้เคียงต่างฝ่ายต่างสลับกันครองเกมบุกเข้าใส่กัน

แต่เชื่อว่าการที่ เรือใบสีฟ้า ได้เล่นในบ้าน บางครั้งอาจจะสร้างความได้เปรียบอยู่บ้างบางส่วน อย่างไรก็ดีผลงานที่ทั้งสองพบกันที่ผ่านมา ซิตี้ ไม่ชนะ ลิเวอร์พูล มาแล้ว 5 เกมติดต่อกัน

แถม 3 นัดหลังเป็นลูกทีมของ คล็อปป์ ที่คว้าชัยไปได้ทั้งปวง ทำให้ผลการแข่งขันยังยากจะคาดเดา แต่มั่นใจว่ามีโอกาสสูงที่ต้องดึงเกมยาวไปจนถึงการดวลจุดลูกโทษในที่สุด